สัตว์โลกน่ารัก


มะเร็งเม็ดเลือดขาว (ลิวคีเมีย- Leukemia) โรคอันตรายที่ห้ามมองข้ามของน้องแมว<

ลิวคีเมียหรือมะเร็งเม็ดเลือดขาว ในแมว (Feline Leukemia Virus - FeLV) เป็นกลุ่มของโรคมะเร็งที่เริ่มต้นในไขกระดูก ซึ่งเป็นเนื้อเยื่ออ่อนที่อยู่ภายในกระดูก โดยลิวคีเมียเกิดขึ้นเมื่อเซลล์เม็ดเลือดขาวเจริญเติบโตผิดปกติและเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว เซลล์มะเร็งเหล่านี้จะเบียดบังการสร้างเซลล์เม็ดเลือดปกติ ทำให้ร่างกายขาดเซลล์เม็ดเลือดที่ทำหน้าที่สำคัญ เช่น เซลล์เม็ดเลือดแดงที่นำออกซิเจน เกล็ดเลือดที่ช่วยในการแข็งตัวของเลือด และเซลล์เม็ดเลือดขาวที่ต่อสู้กับการติดเชื้อ อาการของลิวคีเมีย อาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับชนิดของลิวคีเมีย แต่โดยทั่วไปอาจมีอาการดังนี้ อ่อนเพลีย เหนื่อยล้า ซีด มีไข้ หรือหนาวสั่น ติดเชื้อง่าย เลือดออกง่าย เช่น เลือดกำเดาไหล เลือดออกตามไรฟัน มีจุดหรือจ้ำเลือดตามตัว ปวดกระดูกหรือข้อ ต่อมน้ำเหลืองโต ตับหรือม้ามโต น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ การแพร่กระจายของเชื้อโรค ไวรัสลิวคีเมียสามารถติดต่อจากแมวสู่แมวได้หลายทาง เช่น การเลียกัน หรือใช้ชามอาหาร น้ำ และอุปกรณ์ร่วมกัน การกัดกัน การติดจากแม่แมวสู่ลูกแมวขณะตั้งครรภ์หรือให้นม การถ่ายเลือด (หากไม่ได้คัดกรองเลือดก่อน) โดยเฉพาะแมวที่ออกไปนอกบ้านบ่อย หรืออาศัยร่วมกับแมวหลายตัว มีความเสี่ยงในการติดเชื้อมากขึ้น การรักษาลิวคีเมีย มีหลายวิธีขึ้นอยู่กับชนิดของลิวคีเมีย ระยะของโรค และสุขภาพโดยรวมของผู้ป่วย วิธีการรักษาหลักๆ เคมีบำบัด (Chemotherapy): การใช้ยาเพื่อฆ่าเซลล์มะเร็ง รังสีรักษา (Radiation therapy): การใช้รังสีพลังงานสูงเพื่อทำลายเซลล์มะเร็ง การปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิด (Stem cell transplantation) หรือการปลูกถ่ายไขกระดูก (Bone marrow transplantation): การเปลี่ยนไขกระดูกที่ถูกทำลายด้วยไขกระดูกใหม่ที่แข็งแรง การรักษาแบบมุ่งเป้า (Targeted therapy): การใช้ยาที่ออกฤทธิ์จำเพาะต่อเซลล์มะเร็ง ภูมิคุ้มกันบำบัด (Immunotherapy): การกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้ต่อสู้กับเซลล์มะเร็ง การป้องกัน ฉีดวัคซีนป้องกันลิวคีเมีย: แมวควรได้รับวัคซีนตั้งแต่ยังเล็ก โดยเฉพาะแมวที่มีความเสี่ยงสูง เลี้ยงระบบปิด: ลดความเสี่ยงในการสัมผัสแมวที่อาจติดเชื้อ ตรวจเลือด: แนะนำให้ตรวจหา FeLV หากรับแมวใหม่เข้าบ้าน หรือตรวจประจำปี หลีกเลี่ยงการใช้ของร่วมกันกับแมวที่ยังไม่ได้รับการตรวจโรค ผลกระทบต่อสุขภาพแมว ลิวคีเมียส่งผลต่อสุขภาพของแมวในหลายด้าน เช่น: ภูมิคุ้มกันต่ำ ติดเชื้ออื่นง่าย เช่น โรคทางเดินหายใจ ผิวหนัง หรือช่องปาก โลหิตจาง อ่อนเพลีย กินน้อย น้ำหนักลด มะเร็งเม็ดเลือดขาว หรือเนื้องอกในอวัยวะต่างๆ อายุขัยสั้นลง หากไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม การดูแลแมวที่ติดเชื้อ แมวที่ติดเชื้อ FeLV ยังสามารถมีชีวิตอยู่ได้อย่างมีคุณภาพ หากได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม เช่น: พาไปพบสัตวแพทย์เป็นประจำ ให้อาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง เลี้ยงในบ้าน หลีกเลี่ยงการติดเชื้อแทรกซ้อน หากเลี้ยงแมวและไม่แน่ใจว่าแมวติดเชื้อหรือไม่ ควรพาไปตรวจเลือดที่คลินิกหรือโรงพยาบาลสัตว์ เพื่อความสบายใจและการวางแผนดูแลสุขภาพที่เหมาะสมกันนะครับ

(24/04/2025 11:07) ...อ่านต่อ
รีวิว petkit pura max ห้องน้ำแมวอัตโนมัติ<

ได้มีโอกาสซื้อ Petkit Pura Max มา ซึ่งเป็นห้องน้ำแมวอัตโนมัติที่มีฟังก์ชันพิเศษหลายอย่างออกแบบมาเพื่อความสะดวกของเจ้าของและสุขภาพของแมว พร้อมกับเทคโนโลยีที่ช่วยทำความสะอาดอัตโนมัติ ลดกลิ่น และสามารถเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันเพื่อการควบคุมและติดตามการใช้งานได้แบบเรียลไทม์

(12/11/2024 11:22) ...อ่านต่อ
แมววิเชียรมาศ ประวัติความเป็นมาและความเชื่อ<

แมววิเชียรมาศ แมวแห่งสยาม แมววิเชียรมาศ หรือที่รู้จักกันในชื่อ "แมวสยาม" เป็นแมวพันธุ์ไทยที่มีลักษณะเด่นเป็นมากกว่าแค่แมวเลี้ยงทั่วไปเพราะในประเทศไทยของเรา แมวพันธุ์นี้ถือเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นไทย และมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมมาอย่างยาวนาน ประวัติความเป็นมา ต้นกำเนิดในสยาม: แมววิเชียรมาศมีถิ่นกำเนิดในประเทศไทย หรือที่เรียกกันในสมัยก่อนว่าสยาม จึงได้ชื่อว่า "แมวสยาม" (Siamese cat) ไปด้วย โดยมีหลักฐานปรากฏในสมุดข่อยโบราณว่าเป็นแมวมงคลที่เลี้ยงไว้ในวัง ความหมายของชื่อ: ชื่อ "วิเชียรมาศ" มีความหมายว่า "เพชรแห่งดวงจันทร์" ซึ่งสื่อถึงลักษณะเด่นของแมวพันธุ์นี้ที่มีดวงตาสีฟ้าสดใสเหมือนเพชร และขนสีขาวนวลเหมือนแสงจันทร์ แมวมงคล: ในสมัยโบราณเชื่อกันว่าแมววิเชียรมาศเป็นแมวมงคล ช่วยนำโชคลาภมาให้ และเป็นสัญลักษณ์ของความสูงส่ง จึงมักพบเห็นได้ในวรรณคดีไทยและภาพวาดโบราณ การเผยแพร่ไปทั่วโลก: ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 แมววิเชียรมาศได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่ชาวต่างชาติ โดยเฉพาะในประเทศอังกฤษและสหรัฐอเมริกา ทำให้สายพันธุ์นี้แพร่หลายไปทั่วโลกและกลายเป็นที่รู้จักในนาม Siamese cat สัญลักษณ์ของประเทศไทย: แมววิเชียรมาศเคยถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ที่จัดขึ้นในประเทศไทยหลายครั้ง เนื่องจากเป็นสัญลักษณ์ที่เป็นที่รู้จักและเป็นที่รักของคนไทย

(08/08/2024 16:20) ...อ่านต่อ
มาทำความรู้จัก ชูการ์ไกลเดอร์​และโครงสร้างของชูการ์ไกลเดอร์กัน<

ชูการ์ไกลเดอร์เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็กที่อาศัยอยู่ในเวลากลางคืน พื้นเมืองของออสเตรเลีย นิวกินี และบางส่วนของอินโดนีเซีย พวกเขามีความสามารถในการร่อนในอากาศ คล้ายกับกระรอกบิน ด้วยเยื่อพิเศษที่ยืดจากข้อมือถึงข้อเท้า โครงสร้างของชูการ์ไกลเดอร์ 1. หัวและใบหน้า จมูก: สีชมพูและขนาดเล็ก ใบหน้า: โดยทั่วไปจะมีสีขาวและมีแถบสีดำตรงกลาง ปากและฟัน: มีฟันหน้าสองซี่ที่เด่นชัด 2. หูและตา หู: ใหญ่และคล้ายกับของจิ้งจอก ช่วยให้การได้ยินชัดเจน ตา: ใหญ่ ช่วยในการมองเห็นในเวลากลางคืน 3. แขนขา นิ้วมือ: มีห้านิ้วมือแต่ละข้าง และมีเล็บ นิ้วเท้า: มีสี่นิ้วเท้าแต่ละข้างและมีเล็บ และมีนิ้วโป้งเพิ่มอีกหนึ่งนิ้วที่ไม่มีเล็บ 4. ลำตัว เยื่อร่อน (Patagium): เยื่อบางๆ ที่ยืดจากข้อมือถึงข้อเท้า ช่วยให้พวกเขาร่อน ขนหน้าท้อง: มีสีครีมถึงสีเทาซีด 5. หาง ลักษณะ: ขนฟู ใช้ในการทรงตัวและควบคุมทิศทางขณะร่อน ปลายหาง: มักจะเป็นสีดำ 6. ส่วนอื่นๆที่สังเกตุได้ ต่อมกลิ่น: ตัวผู้มีต่อมกลิ่นที่หน้าท้องคล้ายเส้นด้าย และผลิตกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ กระเป๋าหน้าท้อง: ตัวเมียมีกระเป๋าหน้าท้องสำหรับเลี้ยงและดูแลลูกน้อย น้ำลาย: มีลักษณะกลิ่นเฉพาะตัวของชูการ์ไกลเดอร์ เพศผู้ มักจะขนร่วงเป็นวงกลมช่วงบริเวณกลางศีรษะ

(08/08/2024 09:00) ...อ่านต่อ
การเลี้ยงและดูแลชูการ์ไกลเดอร์ ฉบับมือใหม่<

เรื่องที่มือใหม่อยากรู้เกี่ยวกับการเลี้ยงดูชูการ์ไกลเดอร์ มักจะมีคำถามว่า น้องกินอะไรได้บ้าง ? น้องเลี้ยงยากมั้ย ? น้องส่งเสียงดังมั้ย ? น้องมีกลิ่นเหม็นไหม ? น้องนอนเวลาไหนบ้าง ? การจัดบ้านจัดกรงน้อง ? เดี๋ยววันนี้เรามาไขข้อกระจ่าง ของเรื่องพวกนี้ไปด้วยกันนะครับ 1. ชูการ์ไกลเดอร์เลี้ยงยากมั้ย ? การเลี้ยงชูการ์ไกลเดอร์ เป็นสัตว์ที่ชอบนอนในเวลากลางวัน และมักจะตื่นตัว และออกมากระโดดในเวลากลางคืน ดังนั้น้วบาทีาเหมาะสมในการมาเล่นกับน้องๆ คือในช่วงค่ำๆ หรือช่วงมืดๆ ดังนั้นคนที่มีงานประจำ หรือเวลางานในช่วงกลางวันจะ ก็จะสามารถเลี้ยงน้องๆได้อย่างสยายเลย 2. ชูการ์ไกลเดอร์มีกลิ่นตัวไหม ? ขอตอบเลยว่า ชูการ์ไกลเดอร์จะมีกลิ่นตัวเฉพาะตัว และค่อนข้างฉุนเลยทีเดียวถ้าเลี้ยงรวมกันหลายตัว แต่ถ้าเลี้ยง 1-2 ตัวก็ไม่ค่อยกังวลเรื่องกลิ่นเท่าไหร่ครับ ส่วนการทำความสะอาดสามารถอาบน้ำได้ในเพศผู้ แต่เพศเมียจะไม่แนะนำให้อาบน้ำเพราะน้ำอาจเข้าไปในกระเป๋าหน้าท้องของเพศเมีย ทำให้อับชื้นและเป็นโรคได้ 3. ชูการ์ไกลเดอร์กินอะไรได้บ้าง ? เรียกว่าผลไม้ตามฤดูกาล ในไทยที่มีรสหวานชูการ์ไกลเดอร์สามารถรับประทานได้ทั้งหมดเลยครับ และที่สำคัญอาหารประเภทโปรตีนก็เป็นอาหารที่สำคัญเช่นกันที่ควรให้กินประจำอาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง เช่น จิ้งหรีด หนอนนก หนอนแว็ก หรือหนอนประเภทต่างๆ ที่มีโปรตีนที่สัตว์สามารถกินได้ ชูการ์ไกลเดอร์ ชอบหมดเลย 4. ชูการ์ไกลเดอร์ส่งเสียงดังไหม ? เรียกได้ว่า การเลี้ยงชูการไกลเดอร์ใครที่กังวลเรื่องเสียงสามารถตัดทิ้งได้ซะส่วนใหญ่เลย เพราะน้องแทบจะไม่ส่งเสียงเลย ยกเว้นตอนดึกๆ จะมีการเห่าเล่นกันกับเพื่อนๆ บ้าง แต่ไม่นานจนเกินไป หรือเสียงดังจนข้างห้องตกใจแน่นอน 5. การจัดกรงชูการ์ไกลเดอร์ ที่อยู่ของชูการ์ก็ถือเป็นสิ่งสำคัญ ที่ทำให้สุขภาพจิตของชูการ์ไกลเดอร์มีความสุข ไม่ควรแคบหรือกว้างเกินไป และควรมีกิ่งไม้ในกรง พาดหลายๆมุม เพื่อให้ชูการ์ไกลเดอร์ได้กระโดดเล่น และเป็นที่ลับฟันของเหล่าชูการ์ไกลเดอร์ได้อีกด้วย เป็นอย่างไรกันบ้างครับ สำหรับข้อมูลดีๆ ที่ได้นำเสนอ หากมือใหม่ท่านใดมีข้อสงสัย คอมเม้นแสดงความคิดเห็นกันได้เลยนะครับ เดี๋ยวแอดจะมาช่วยไขข้อสงสัยให้นะครับ

(07/08/2024 15:00) ...อ่านต่อ
แมวกินหญ้ามีประโยชน์อย่างไร?<

แมวกินหญ้ามีประโยชน์หลายประการต่อสุขภาพข ดังนี้ ช่วยในเรื่องการย่อยอาหาร: หญ้ามีไฟเบอร์ซึ่งช่วยกระตุ้นระบบย่อยอาหารของแมวและช่วยให้การเคลื่อนไหวของลำไส้เป็นไปได้อย่างปกติ ช่วยในการขับถ่าย: หญ้าช่วยในการขับถ่ายของเสียและก้อนขนที่ติดอยู่ในระบบย่อยอาหารของแมวให้ออกมาได้ง่ายขึ้น สารอาหารและเอนไซม์: หญ้าบางชนิดมีวิตามินและเอนไซม์ที่มีประโยชน์สำหรับแมว เช่น โฟลิกและคลอโรฟิลล์ บรรเทาอาการท้องอืด: หญ้าช่วยให้แมวรู้สึกสบายขึ้นหากมีอาการท้องอืดหรือไม่สบายท้อง ช่วยในการทำความสะอาดช่องปาก: การเคี้ยวหญ้าช่วยในการขจัดคราบที่ฟันและทำความสะอาดช่องปากของแมว อย่างไรก็ตาม แมวไม่ควรกินหญ้าในปริมาณมากเกินไป และควรแน่ใจว่าหญ้าที่แมวกินไม่ปนเปื้อนสารเคมีหรือยาฆ่าแมลงที่อาจเป็นอันตรายต่อแมว

(10/06/2024 09:00) ...อ่านต่อ